Spread the love

เติมลมยาง เท่าไหร่ถึงจะเหมาะกับรถที่ใช้อยู่?

ปกติการเติมลมยางรถยนต์ให้เติมลมตามสเปคของรถที่กำหนด โดยศึกษาได้จากคู่มือของรถนั้นๆ ส่วนมากจะอยู่ที่ด้านข้างของประตูรถยนต์ จะเป็นสติ๊กเกอรติดไว้ให้ดู โดยจะบอกเป็นขนาดของยาง กับ ปริมาณลมที่ควรเติม

ข้อควรคำนึงทกครั้งเวลา เติมลมยาง

  • ต้องเติม ลมยาง ให้ครบทั้งสี่ล้อในปริมาณแรงดัน ลมยาง ที่เท่ากัน เพราะหากเติมปริมาณ ลมยาง ไม่เท่ากันจะทำให้การสึกหรอของยางไม่เท่ากันทั้งหมด
  • เวลาเติมลมยางควรเติมตอนยางไม่ร้อนเกินไป เพราะจะทำให้ค่าที่ได้จากการวัดแรงดันผิดเพี้ยน เพราะเมื่อยางร้อน จะทำให้แรงดันในยางสูงเกินกว่าปกติจากอากาศในยางที่ร้อนและขยายตัว
  • ควรเช็คลมยางเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ถ้าลมยางรั่วซึมมากกว่าปกติ ควรเข้าร้านเพื่อหาจุดรั่วซึมของยาง
  • หากต้องการวิ่งทางไกล นานๆ ควรเพิ่มลมยางอีกประมาณ 3 – 5 PSI ( ปอนด์/ตร.นิ้ว )
  • สำหรับผู้ที่ใช้ยางเรเดียลต้องเติมลมมากกว่ายางผ้าใบธรรมดา
  • ความดันลมยาง สำหรับรถเก๋งและรถกระบะแรงดันสูงสุด ไม่ควรเกิน 36 PSI ( ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ) ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดยาง ขนาดรถ และประเภทของรถนั้นๆ ด้วย เช่น
    -การเติมลมล้อ ของรถเก๋งขนาดเล็ก ความดันลมยาง ประมาณ 25 – 30 PSI
    -การเติมลมล้อ รถเก๋งขนาดกลางถึงใหญ่ ความดันลมยาง ประมาณ 30 – 35 PSI
    -การเติมลมยาง สำหรับรถกระบะ ความดันลมยาง ไม่ควรเกิน 65 PSI
    -การเติมลมยางนั่นไม่ควรเติมให้น้อย หรือมาก กว่าที่กำหนด นอกจากจะใช้งานในสถาวะที่ผิดไปจากการใช้งานปกติ เช่น รถที่บรรทุกเยอะๆควรเติมให้มากกว่าปกติ หรือ รถoff road ที่จะเข้าไปลุยในป่าก็ควรให้ลมยางอ่อน เพราะยางจะได้สัมผัสกับพื้นดินที่ขรุขระ หรือสามารถปีนก้อนหินได้ง่ายขึ้น
  • หากรถยนต์ของคุณมีการบรรทุกของที่มีน้ำหนักมากบ่อยๆ หรือมีผู้โดยสารมากในการเดินทาง ควรเติม ลมยาง เผื่อจากค่าที่กำหนดเพิ่มอีกสัก 2 -3 ปอนด์ได้

 

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.